หัวข้อวิจัย การสำรวจรูปแบบการเรียนรู้ พหุปัญญาและความฉลาดทางอารมณ์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 – 6 โรงเรียนศรีอยุธยา ในพระอุปถัมภ์ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ปีการศึกษา 2562

บทคัดย่อ การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสำรวจรูปแบบการเรียนรู้ พหุปัญญา และความฉลาดทางอารมณ์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 – 6 ปีการศึกษา 2562 ประชากรที่ศึกษา คือ นักเรียนโรงเรียนศรีอยุธยา ในพระอุปถัมภ์ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ปีการศึกษา 2562 มีจำนวนทั้งสิ้น 3,003 คน กลุ่มตัวอย่างนักเรียนที่ตอบแบบสอบถามทั้งสิ้นจำนวน 3,003 คน คิดเป็นร้อยละ 100 เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย แบ่งเป็น 3 ฉบับ ประกอบด้วย ฉบับที่ 1 รูปแบบการเรียนรู้ ฉบับที่ 2 พหุปัญญา และฉบับที่ 3 ความฉลาดทางอารมณ์ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าสถิติค่าร้อยละ (Percentage)

ผลการวิจัยสรุปได้ ดังนี้
1. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 - 6 จำนวน 3,003 คน มีรูปแบบการเรียนรู้ที่ถนัดที่สุด คือใช้การสัมผัส 1 จำนวน 1,054 คน (ร้อยละ 15.15) มีรูปแบบการเรียนรู้ที่ถนัดรองลงมาคือ ใช้สัมผัส 1 จำนวน 799 คน (ร้อยละ 26.61) รูปแบบการเรียนรู้ที่ไม่ถนัด คือ เรียนตามลำพัง จำนวน 949 คน (ร้อยละ 31.60) ตามลำดับ
2. ในภาพรวม นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 - 6 จำนวน 3,003 คน มีความถนัดด้านมิติสัมพันธ์ จำนวน 564 คน (ร้อยละ 18.78) รองลงมาคือ ด้านมนุษยสัมพันธ์ จำนวน 533 (ร้อยะละ 17.75) และด้านศิลปะและดนตรี จำนวน 524 คน (ร้อยละ 17.45) ตามลำดับ สำหรับด้านที่นักเรียนมีความถนัดน้อยที่สุด คือ ด้านภาษา จำนวน 131 คน (ร้อยละ 4.36)
3. ในภาพรวม พบว่านักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-6 จำนวน 3,003 คน นักเรียนมีความฉลาดทางอารมณ์ในด้านย่อยที่ต่ำกว่าเกณฑ์ปกติมากที่สุด คือ ด้านรับผิดชอบ จำนวน 514 คน (ร้อยละ 17.85) รองลงมา คือ ด้านพึงพอใจในชีวิต จำนวน 465 คน (ร้อยละ 16.15) และด้านสัมพันธภาพ จำนวน 443 คน (ร้อยละ 15.39) ตามลำดับ สำหรับด้านย่อยที่ต่ำกว่าเกณฑ์ปกติน้อยที่สุด คือ ด้านควบคุมอารมณ์ จำนวน 110 คน (ร้อยละ 3.82)

หัวข้อวิจัย การสำรวจรูปแบบการเรียนรู้ พหุปัญญาและความฉลาดทางอารมณ์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 – 6 โรงเรียนศรีอยุธยา ในพระอุปถัมภ์ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ปีการศึกษา 2561

บทคัดย่อ การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสำรวจรูปแบบการเรียนรู้ พหุปัญญา และความฉลาดทางอารมณ์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 – 6 ปีการศึกษา 2561 ประชากรที่ศึกษา คือ นักเรียนโรงเรียนศรีอยุธยา ในพระอุปถัมภ์ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ปีการศึกษา 2561 มีจำนวนทั้งสิ้น 3,043 คน กลุ่มตัวอย่างนักเรียนที่ตอบแบบสอบถามทั้งสิ้นจำนวน 3,043 คน คิดเป็นร้อยละ 100 เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย แบ่งเป็น 3 ฉบับ ประกอบด้วย ฉบับที่ 1 รูปแบบการเรียนรู้ ฉบับที่ 2 พหุปัญญา และฉบับที่ 3 ความฉลาดทางอารมณ์ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าสถิติค่าร้อยละ (Percentage) ผลการวิจัยสรุปได้ ดังนี้ 1. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 - 6 จำนวน 3,043 คน มีรูปแบบการเรียนรู้ที่ถนัดที่สุด คือใช้การสัมผัส 1 จำนวน 1,173 คน (ร้อยละ 38.55) มีรูปแบบการเรียนรู้รองลงมาคือ ใช้สัมผัส 1 จำนวน 763 คน (ร้อยละ 25.07) รูปแบบการเรียนรู้ที่ไม่ถนัด คือ เรียนตามลำพัง จำนวน 1,018 คน (ร้อยละ 33.45) ตามลำดับ 2. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 - 6 จำนวน 3,043 คน มีความถนัดด้านมนุษยสัมพันธ์มากที่สุด จำนวน 651 คน (ร้อยละ 21.39) รองลงมาคือ ด้านมิติสัมพันธ์ จำนวน 522 (ร้อยะละ 17.51) และด้านคณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์จำนวน 499 คน (ร้อยละ 16.40) ตามลำดับ สำหรับด้านที่นักเรียนมีความถนัดน้อยที่สุด คือ ด้านภาษา จำนวน 135 คน (ร้อยละ 4.44) 3. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-6 จำนวน 3,043 คน ในภาพรวม นักเรียนมีความฉลาดทางอารมณ์ในด้านย่อยที่ต่ำกว่าเกณฑ์ปกติมากที่สุด คือ ด้านรับผิดชอบ จำนวน 584 คน (ร้อยละ 19.19) รองลงมา คือ ด้านพึงพอใจในชีวิต จำนวน 539 คน (ร้อยละ 17.71) และด้านสัมพันธภาพ จำนวน 536 คน (ร้อยละ 17.61) ตามลำดับ สำหรับด้านย่อยที่ต่ำกว่าเกณฑ์ปกติน้อยที่สุด คือ ด้านควบคุมอารมณ์ จำนวน 118 คน (ร้อยละ 3.88)

หัวข้อวิจัย การสำรวจรูปแบบการเรียนรู้ พหุปัญญาและความฉลาดทางอารมณ์ของนักเรียนชั้นมธัยมศึกษาปีที่ 1– 6 โรงเรียนศรีอยุธยา ในพระอุปถัมภ์ฯ ปี การศึกษา 2555

บทคัดย่อ การศึกษาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อสารวจรูปแบบการเรียนรู้ พหุปัญญา และความฉลาดทางอารมณ์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 – 6 ปีการศึกษา 2555 โดยศึกษา จากประชากร จานวน 66 ห้องเรียน จานวนนักเรียนทั้งสิ้น 3,084 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยแบ่งเป็น 3 ฉบับ ประกอบด้วย ฉบับที่ 1 รูปแบบการเรียนรู้ ฉบับที่ 2 พหุปัญญา ฉบับที่ 3 ความฉลาดทางอารมณ์ ผลการวิจัยสรุปได้ ดังนี้ 1.กกนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 – 6 ส่วนใหญ่เรียนรู้ได้ดีที่สุดจากการ การสัมผัส 1 คิดเป็นร้อยละ 23.56 รองลงมาเรียนรู้ได้ดีจากการฟัง คิดเป็นร้อยละ 19.51 และรูปแบบการเรียนรู้ที่ไม่ถนัดที่สุดคือ เรียนรู้ตามลาพัง คิดเป็นร้อยละ 42.95 ตามลาดับ 2. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 – 6 มีความถนัดทางด้านศิลปะและดนตรีมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 16.79 รองลงมาคือ ด้านมนุษยสัมพันธ์ คิดเป็นร้อยละ 15.69 และด้านมิติสัมพันธ์ คิดเป็นร้อยละ 14.87 ตามลาดับ 3. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 – 6 มีความฉลาดทางอารมณ์ต่ากว่าเกณฑ์ปกติมากที่สุด คือ ด้านรับผิดชอบ คิดเป็นร้อยละ 14.07 รองมา คือ ด้านเห็นใจผู้อื่น คิดเป็นร้อยละ 13.39 ด้านความพึงพอใจในชีวิต คิดเป็นร้อยละ 13.05 ด้านมีแรงจูงใจ คิดเป็นร้อยละ 12.33 ด้านสัมพันธภาพ คิดเป็นร้อยละ 12.02 ด้านภูมิใจในตัวเอง คิดเป็นร้อยละ 10.56 ด้านสุขสงบทางใจ คิดเป็นร้อยละ 10.22 และด้านตัดสินใจ คิดเป็นร้อยละ 8.40

หัวข้อวิจัย การสารวจรูปแบบการเรียนรู้ พหุปัญญาและความฉลาดทางอารมณ์ของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 – 6 โรงเรียนศรีอยุธยา ในพระอุปถัมภ์ฯ ปีการศึกษา 2556

บทคัดย่อ การศึกษาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อสารวจรูปแบบการเรียนรู้ พหุปัญญา และความฉลาดทางอารมณ์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 – 6 ปีการศึกษา 2556 โดยศึกษา จากประชากร จานวน 66 ห้องเรียน จานวนนักเรียนทั้งสิ้น 3,166 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยแบ่งเป็น 3 ฉบับ ประกอบด้วย ฉบับที่ 1 รูปแบบการเรียนรู้ ฉบับที่ 2 พหุปัญญา ฉบับที่ 3 ความฉลาดทางอารมณ์ ผลการวิจัยสรุปได้ ดังนี้ 1. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 – 6 ส่วนใหญ่เรียนรู้ได้ดีที่สุดจากการการสัมผัส 1 คิดเป็น ร้อยละ 28.29 รองลงมาเรียนรู้ได้ดี คือ การใช้สัมผัส 1 คิดเป็นร้อยละ 20.79 และรูปแบบการเรียนรู้ ที่ไม่ถนัดที่สุด คือ เรียนรู้ตามลาพัง คิดเป็นร้อยละ 25.16 ตามลาดับ 2. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 – 6 มีความถนัดทางด้านมิติสัมพันธ์มากที่สุด คิดเป็น ร้อยละ 16.83 รองลงมา คือ ด้านศิลปะดนตรี คิดเป็นร้อยละ 15.96 และด้านมนุษยสัมพันธ์ คิดเป็นร้อยละ 14.87 ตามลาดับ 3. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 – 6 มีความฉลาดทางอารมณ์ต่ากว่าเกณฑ์ปกติมากที่สุด คือ ด้านตัดสินใจ คิดเป็นร้อยละ 32.64 รองมา คือ สัมพันธภาพ คิดเป็นร้อยละ 31.83 ด้านความ พึงพอใจในชีวิต คิดเป็นร้อยละ 31.06 ด้านมีแรงจูงใจ คิดเป็นร้อยละ 30.15 ด้านเห็นใจผู้อื่น คิดเป็นร้อยละ 30.05 ด้านรับผิดชอบ คิดเป็นร้อยละ 29.70 ด้านภูมิใจในตัวเอง คิดเป็นร้อยละ 23.54 ด้านสุขสงบทางใจ คิดเป็นร้อยละ 18.14 และด้านควบคุมอารมณ์ คิดเป็นร้อยละ 5.08

หัวข้อวิจัย การสารวจรูปแบบการเรียนรู้ พหุปัญญาและความฉลาดทางอารมณ์ของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 – 6 โรงเรียนศรีอยุธยา ในพระอุปถัมภ์ฯ ปีการศึกษา 2557

บทคัดย่อ การศึกษาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อสารวจรูปแบบการเรียนรู้ พหุปัญญา และความฉลาดทางอารมณ์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 – 6 ปีการศึกษา 2557 โดยศึกษา จากประชากร จานวน 70 ห้องเรียน จานวนนักเรียนทั้งสิ้น 3,212 คน ซึ่งทาแบบสอบถาม จานวน ทั้งสิ้น 3,205 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยแบ่งเป็น 3 ฉบับ ประกอบด้วย ฉบับที่ 1 รูปแบบการเรียนรู้ ฉบับที่ 2 พหุปัญญา ฉบับที่ 3 ความฉลาดทางอารมณ์ ผลการวิจัยสรุปได้ ดังนี้ 1.กนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 – 6 ส่วนใหญ่เรียนรู้ได้ดีที่สุด จากการ การสัมผัส 1 คิดเป็นร้อยละ 34.07 รองลงมาเรียนรู้ได้ดีจากการใช้สัมผัส 1 คิดเป็นร้อยละ 25.55 และรูปแบบการเรียนรู้ที่ไม่ถนัดที่สุดคือ เรียนรู้ตามลาพัง คิดเป็นร้อยละ 35.41 ตามลาดับ 2. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 – 6 มีความถนัดทางด้านศิลปะและดนตรีมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 18.94 รองลงมา คือ ด้านกีฬาและสัมผัส คิดเป็นร้อยละ 17.07 และด้านธรรมชาติ คิดเป็นร้อยละ 14.82 ตามลาดับ 3. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 – 6 มีความฉลาดทางอารมณ์ต่ากว่าเกณฑ์ปกติมากที่สุด คือ ด้านรับผิดชอบ คิดเป็นร้อยละ 13.99 รองมา คือ ด้านตัดสินใจ คิดเป็นร้อยละ 13.44 ด้านมีแรงจูงใจ คิดเป็นร้อยละ 13.23 ด้านสัมพันธภาพ คิดเป็นร้อยละ 13.17 ด้านพึงพอใจในชีวิต คิดเป็นร้อยละ 13.14 ด้านเห็นใจผู้อื่น คิดเป็นร้อยละ 12.38 ด้านสุขสงบทางใจ คิดเป็นร้อยละ 10.43 และด้านภูมิใจในตนเอง คิดเป็นร้อยละ 6.90 และด้านควบคุมอารมณ์ คิดเป็นร้อยละ 3.32

หัวข้อวิจัย การสารวจรูปแบบการเรียนรู้ พหุปัญญาและความฉลาดทางอารมณ์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 – 6 โรงเรียนศรีอยุธยา ในพระอุปถัมภ์ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ปีการศึกษา 2560

บทคัดย่อ การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสารวจรูปแบบการเรียนรู้ พหุปัญญา และความฉลาดทางอารมณ์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 – 6 ปีการศึกษา 2560 ประชากรที่ศึกษา คือ นักเรียนโรงเรียนศรีอยุธยา ในพระอุปถัมภ์ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ปีการศึกษา 2560 มีจานวนทั้งสิ้น 3,137 คน กลุ่มตัวอย่างนักเรียนที่ตอบแบบสอบถามทั้งสิ้นจานวน 3,137 คน คิดเป็นร้อยละ 100 เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย แบ่งเป็น 3 ฉบับ ประกอบด้วย ฉบับที่ 1 รูปแบบการเรียนรู้ ฉบับที่ 2 พหุปัญญา และฉบับที่ 3 ความฉลาดทางอารมณ์ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าสถิติค่าร้อยละ (Percentage) ผลการวิจัยสรุปได้ ดังนี้ 1. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-6 จานวน 3,137 คน มีรูปแบบการเรียนรู้ที่ถนัดที่สุด คือใช้การสัมผัส 1 จานวน 1,156 คน (ร้อยละ 36.85) มีรูปแบบการเรียนรู้รองลงมาคือ ใช้สัมผัส 1 จานวน 837 คน (ร้อยละ 26.68) รูปแบบการเรียนรู้ที่ไม่ถนัด คือ เรียนตามลาพัง จานวน 1,126 คน (ร้อยละ 35.89) ตามลาดับ 2. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 - 6 จานวน 3,137 คน มีความถนัดด้านมิติสัมพันธ์มากที่สุด จานวน 560 คน (ร้อยละ 17.85) รองลงมาคือ ด้านศิลปะและดนตรี และด้านมนุษยสัมพันธ์ จานวนเท่ากัน 502 (ร้อยะละ 16.00) และ ด้านคณิตศาสตร์และ วิทยาศาสตร์ จานวน 413 คน (ร้อยละ 13.17) ตามลาดับ สาหรับด้านที่นักเรียนมีความถนัดน้อยที่สุด คือ ด้านภาษา จานวน 201 คน (ร้อยละ 6.41) 3. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-6 จานวน 3,137 คน มีความฉลาดทางอารมณ์ในด้านย่อยที่ต่ากว่าเกณฑ์ปกติมากที่สุด คือ ด้านรับผิดชอบ จานวน 541 คน (ร้อยละ 17.25) รองลงมา คือ ด้านพึงพอใจในชีวิต จานวน 508 คน (ร้อยละ 16.19) และด้านสัมพันธภาพ จานวน 503 คน (ร้อยละ 16.03) ตามลาดับ สาหรับด้านย่อยที่ต่ากว่าเกณฑ์ปกติน้อยที่สุด คือ ด้านควบคุมอารมณ์ จานวน 125 คน (ร้อยละ 3.98)

หัวข้อวิจัย การสารวจรูปแบบการเรียนรู้ พหุปัญญาและความฉลาดทางอารมณ์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 – 6 โรงเรียนศรีอยุธยา ในพระอุปถัมภ์ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ปีการศึกษา 2559

บทคัดย่อ การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสารวจรูปแบบการเรียนรู้ พหุปัญญา และความฉลาดทางอารมณ์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 – 6 ปีการศึกษา 2559 ประชากรที่ศึกษา คือ นักเรียนโรงเรียนศรีอยุธยา ในพระอุปถัมภ์ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ปีการศึกษา 2559 มีจานวนทั้งสิ้น 3,130 คน กลุ่มตัวอย่างนักเรียนที่ตอบแบบสอบถามทั้งสิ้นจานวน 3,123 คน คิดเป็นร้อยละ 99.78 เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย แบ่งเป็น 3 ฉบับ ประกอบด้วย ฉบับที่ 1 รูปแบบการเรียนรู้ ฉบับที่ 2 พหุปัญญา และฉบับที่ 3 ความฉลาดทางอารมณ์ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าสถิติค่าร้อยละ (Percentage) ผลการวิจัยสรุปได้ ดังนี้ 1. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-6 จานวน 3,123 คน มีรูปแบบการเรียนรู้ที่ถนัดที่สุด คือ ใช้การสัมผัส 1 จานวน 1,182 คน (ร้อยละ 37.85) รองลงมาคือ ใช้สัมผัส 1 จานวน 834 คน (ร้อยละ 26.71) รูปแบบการเรียนรู้ที่ไม่ถนัด คือ เรียนตามลาพัง จานวน 1,121 คน (ร้อยละ 35.89) 2. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 - 6 จานวน 3,123 คน มีความถนัดด้านกีฬามากที่สุด จานวน 626 คน (ร้อยละ 20.04) รองลงมาคือ ด้านคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ จานวน 483 (ร้อยละ 15.47) และด้านศิลปะและดนตรี จานวน 472 คน (ร้อยละ 15.11) ตามลาดับ สาหรับด้านที่นักเรียนมีความถนัดน้อยที่สุด คือ ด้านมนุษยสัมพันธ์ จานวน 174 คน (ร้อยละ 5.57) 3. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-6 จานวน 3,123 คน มีความฉลาดทางอารมณ์ในด้านย่อยที่ต่ากว่าเกณฑ์ปกติมากที่สุด คือ ด้านรับผิดชอบ จานวน 514 คน (ร้อยละ 16.46) รองลงมา คือ ด้านพึงพอใจในชีวิต จานวน 488 คน (ร้อยละ 15.63) และด้านสัมพันธภาพ จานวน 451 คน (ร้อยละ 14.44) ตามลาดับ สาหรับด้านย่อยที่ต่ากว่าเกณฑ์ปกติน้อยที่สุด คือ ด้านภูมิใจในตนเอง จานวน 213 คน (ร้อยละ 6.82)

หัวข้อวิจัย การสารวจรูปแบบการเรียนรู้ พหุปัญญาและความฉลาดทางอารมณ์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 – 6 โรงเรียนศรีอยุธยา ในพระอุปถัมภ์ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ปีการศึกษา 2558

บทคัดย่อ การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสารวจรูปแบบการเรียนรู้ พหุปัญญา และความ ฉลาดทางอารมณ์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 – 6 โดยประชากรที่ศึกษา คือ นักเรียนโรงเรียน ศรีอยุธยา ในพระอุปถัมภ์ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ทั้งหมด ในปีการศึกษา 2558 มีจานวนทั้งสิ้น 3,208 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย แบ่งเป็น 3 ฉบับ ประกอบด้วย ฉบับที่ 1 รูปแบบการเรียนรู้ ฉบับที่ 2 พหุปัญญา และฉบับที่ 3 ความฉลาดทางอารมณ์ ผลการวิจัยสรุปได้ ดังนี้ 1. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 - 6 มีรูปแบบการเรียนรู้ที่ถนัดที่สุด คือ ใช้การสัมผัส 1 จานวน 1,157 คน (ร้อยละ 36.07) รองลงมาคือ ใช้สัมผัส 1 จานวน 806 คน (ร้อยละ 25.12) รูปแบบการเรียนรู้ที่ไม่ถนัด คือ เรียนตามลาพัง จานวน 1,091 คน (ร้อยละ 34.01) 2. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 – 6 มีความถนัดด้านด้านกีฬาและสัมผัส มากที่สุด จานวน 678 คน (ร้อยละ 21.13) รองลงมา คือ คณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ จานวน 534 คน (ร้อยละ 16.65) และศิลปะและดนตรี จานวน 447 คน (ร้อยละ13.93) 3. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 1 - 6 มีความฉลาดทางอารมณ์ในด้านที่ต่ากว่าเกณ์์ ปกติมากที่สุด คือ ด้านรับผิดชอบ จานวน 587 คน (ร้อยละ 18.30) รองลงมา คือ ด้านเห็นใจผู้อื่น จานวน 502 คน (ร้อยละ 15.65) ด้านสัมพันธภาพ จานวน 491 คน (ร้อยละ 15.31) ด้านพึงพอใจ ในชีวิต จานวน 487 คน (ร้อยละ 15.18) ด้านตัดสินใจ จานวน 419 คน (ร้อยละ 13.06) ด้านมีแรงจูงใจ จานวน 414 คน (ร้อยละ 12.91) ด้านสุขสงบทางใจ จานวน 370 คน (ร้อยละ 11.53) ด้านภูมิใจในตนเอง จานวน 208 คน (ร้อยละ 6.48) และด้านควบคุมอารมณ์ จานวน 122 คน (ร้อยละ 3.80)